SET : การวิเคราะห์ในระยะหลังๆผมแทบไม่ได้พูดถึงปัจจัยพื้นฐานเลยแม้แต่น้อย ที่จริงราคาหุ้นควรจะสะท้อนปัจจัยพนื้ ฐาน โดยปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สุดก็คือ กำไรสุทธิ ของ บมจ.ต่างๆ แต่ในระยะนี้ SET มีการแกว่งตัวขึ้นและลงต่อวันแรงมากๆ ซึ่งเป็นไปตามปัจจัยแรงซื้อของผู้เล่นรายใหญ่ ก็คือ ฝรั่งกับกองทุน และปจั จัยทางการเมืองเป็นสำคัญ
P/E ของ SET อยู่ที่ 13.71 เท่าซึ่งถือว่าค่อนข้างถูก จึงทำให้รายใหญ่ที่มีสายป่านยาวกล้าซื้อ และยอมรับความเสี่ยงทางการเมืองได้ในระดับหนึ่ง.....ความมั่นใจของนักลงทุนจะผลักดันให้ราคาหุ้นแพง ซึ่งจะทำให้ค่า P/E แพงตามไปด้วย ผมจำได้ในช่วงปลายปีที่แล้ว ณ.ระดับ SET 750 จุด ค่า P/E อยู่ที่ 26 เท่าสิ่งสำคัญที่เป็นเช่นนั้นคือ ความเสี่ยงทางการเมืองไม่ได้สูงถึงขนาดปัจจุบันช่วงก่อนหน้าที่กองทุนขายหนัก จนขนาดที่ว่าไม่รู้เอาหุ้นมาจากไหนถึงขายได้เยอะเท่านั้น คำตอบก็คือหุ้นในพอร์ตและรวมทั้งที่ยืมมาขายด้วย เมื่อขายไปมากก็ต้องซื้อกลับด้วยเหตุผลคือ ยืมมาขายก็ต้องซื้อคืนเขา และ สัดส่วนหุ้นในพอร์ตต้องคงไว้ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายการลงทุนของกองทุนเมื่อสองวันที่ผ่านมาจึงทำให้ SET บวกขึ้นกว่า 40 จุดแต่ก่อนหน้าเขาได้ Long Set50 future ไว้แล้วเพราะรู้ก่อนแล้วว่าจะมีแรงซื้อขนาดใหญ่เข้ามาแน่ๆ เมื่อ SET ขึ้นS50Future ก็ขึ้น Set50ขึ้นประมาณ 30 จุด คิดเป็นกำไรคือได้กำไรประมาณ 30,000 จากการวางเงิน 50,000 บาท พูดง่ายๆคือ 60% ในวันเดียว ต่อมาอีกวัน(เมื่อวาน)ก็ Long ไว้กว่า 1 พันสัญญา ทั้งๆที่ไม่ได้มีข่าวดี แต่เราก็ได้เห็น SET เขียวได้ในระหว่างวันถึง 3 ครั้ง เพื่อ Short Close....จากเหตุผลที่กล่าวมา SET 50 future จึงมีบทบาทในการกำหนดทิศทาง SET ในวันรุ่งขึ้นครับ
ตอนนี้กองทุนเริ่มขายหุ้นและ Short Future ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นการ Short Close ซะมาก แต่ฝรั่งเข้ามาซื้อหุ้น2000 ล้านบาทรวมถึง Long S50 Future สุทธิ ประมาณ 1100 สัญญา วันนี้มีโอกาสเป็นไปได้มากว่า SET จะบวก ทั้งๆที่ประเทศไทยยังหาข่าวดี และทางออกทางการเมืองไม่ได้ครับ
ทอง : ย่ำอยู่ที่ระดับ 1140 มานาน แต่บาทแข็งทำให้ราคาทองไทยถูกลงอีก---ภาพยังไม่ชัดนะครับ แต่ถ้ามองไปที่ SPDR ก็น่าเข้า Long ได้.
ปล.บทความภาวะตลาดหุ้นและทอง จัดทำและส่งทางE-mailเป็นประจำทุกเช้า และจะเผยแพร่ทางBlogอย่างเร็วหลังปิดตลาดภาคเช้า
ความคิดเห็น