ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2011

ภาวะทองคำ gold future 30-6-11

ค่าเงินบาทแข็งค่ารวดเร็วและคาดว่าจะแข็งค่าขึ้นได้อีก ความเห็นที่จุดนี้ไม่ได้มองที่ยอดซื้อสุทธิฝรั่งใน SET แต่มองที่ $ผันผวนเนื่องในประเด็นเศรษฐกิจโลก ดังนั้นฝั่งlongจะเสียเปรียบเพราะหากGold spotขึ้นแต่ค่าเงินบาทแข็ง Goldไทยก็จะขึ้นได้ไม่มาก แต่เราก็ต้องซื้อเพราะGold spotมันยืน1500$ได้ การเคลื่อนไหวของทองคำช่วงนี้สำคัญเรื่องค่าเงิน ไม่ค่อยให้น้ำหนักกับเรื่อง safe havenเท่าไรครับ

ภาวะทองและSET : window dressing ไตรมาส2 , 28-6-54

อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่า กองทุนในประเทศจะเข้ามาทำ window dressingในช่วงไตรมาส 2ในช่วงปลายเดือนนี้ แต่กว่าจะมาซื้อให้เราได้เห็นชัดๆก็เพิ่งจะมาเอาวันนี้โดยซื้อสุทธิไป 1512 ล้านบาท อย่างไรก็ดีSETไม่ได้ปรับตัวขึ้นแรงเพราะต่างชาติยังเทขายเนื่องจากอานิสงค์ความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศ และอานิสงค์ $ ที่ปรับแข็งค่าขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากการเติบโตของ GDP (ไม่มากแถบการบริโภคยังลดลง) แล้วก็เงินสกุลแถบยูโรโซนที่อ่อนค่าอย่างฉับพลัน เพราะความเสี่ยงภาระหนี้สินในแถบยุโรปหลังจากที่ทราบกันดีว่ามีกรีซแล้วลำดับถัดไปคือ อิตาลี / สเปนและก็โปรตุเกส เรื่อง $ที่แข็งค่าขึ้นนั้น เป็นเหตุผลที่ฝรั่งดำเนินการโยกเงินออกจากบ้านเราได้ไม่ยาก เพราะถ้ามัวแต่จะถือค่าเงินบาทที่ทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับ $ที่จะแข็งค่าขึึ้นมาก ก็จะมีแต่ขาดทุนเพราะค่าเงินบาทอ่อนค่า คิดสะระตะแล้ว แม้ฝรั่งอาจได้กำไรจากหุ้นเพราะว่าลากได้ไม่ยากนั้น แต่ถ้าค่าเงินบาทอ่อนเมื่อนำเงินกลับประเทศโดยการแลกเป็น $ สรุปผลลัพธ์อาจเป็นขาดทุนเลยก็ได้ และเมื่อนำเหตุผลนี้มาคิดรวมกับความเสี่ยงทางการเมือง ที่เป็นปัจจัยที่นักธุรกิจไม่ชอบมากที่สุดเพราะว่าเป็นระดับการว

สรุปweekนี้

สรุปweekนี้ปวดหัวกับตลาดการเงินทุกตลาด  -_-' ทุกตลาดการเงินพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ทุกวันแบบนี้ จึงไม่ให้ผลกำไร สำหรับชาวไล่หรือ trend follwing แต่อาจจะให้กำไรมากพอสมควรกับคนชอบเล่นแบบเหวี่ยงและตัดสินใจเร็ว โดยใช้เครื่องมือประเภทเหวี่ยงที่นิยมก็คือ Slow stochasticสำหรับวงจรขนาดเล็กๆเท่านั้น ซึ่งวงจรขนาดเล็กๆนั้นปกติเชื่อถือไม่ค่อยได้เท่าไร แต่ก็ยังดีกว่าหยิบอาวุธผิด แม้ว่าจะหยิบอาวุธที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือมาใช้ก็ตามที แต่ก็พอใช้ได้ครับ ส่วนชาวไล่จะFollow Buyกันตรงไหน ก็ต้องอดทนอย่างมากเพราะสภาพแวดล้อมดูแล้วน่าจะลงมากกว่า อย่างไรก็ดีหากคุณมีจุดFollowไกลเกินไป ต้นทุนก็จะสูงกว่าคนอื่นเขาและหากตลาดยังมี trendไม่ชัดแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จุดกลับตัวก็จะมีอยู่ตลอดเวลาสรุปจะมีแต่ขาดทุนไปเรื่อยๆ ดังนั้นวิธีการเล่นแบบportfolioแบ่งสัดส่วนการลงทุนตามสภาพความเสี่ยง จึงเป็นสิ่งที่พวกเราใช้ได้ผลมาโดยตลอด เพราะไม่ว่าอนาคตจะออกมาในรูปแบบไหนไม่ว่าขึ้นหรือลง สิ่งที่เรากำหนดชัดคือภาพใหญ่ การผันผวนรุนแรงระหว่างทางก็ทำได้แค่อดทนหรือปรับอารมณ์ให้ชัดเพื่อทำตามแผนเดิมให้ได้เท่านั้นครับ

ภาวะหุ้นและทอง ข่าวคืนนี้ 23-6-54

-Bernanke (เบอร์นานเก้) ออกมาพยากรณ์เศรษฐกิจว่าอยู่ในสถาณการณ์ที่เลวร้าย แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีการบอกใบ้สำหรับมาตรการสนับสุนทางการเงิน(ที่พวกเราคาดการณ์เรื่องQE3)แต่อย่างใด.... อย่างไรก็ดีนาย   Lyle Gramley , ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจระดับสูง  Potomac Research Group ในวอชิงตัน กล่าวว่า   "มีอุปสรรคสำหรับ QE3 เป็นอย่างสูงอย่างเห็นได้ชัด   แต่ถ้ามีความเสี่ยงมากที่เศรษฐกิจจะเติบโตช้าเกินไปอย่างเป็น รูปธรรมให้เพียงพอสำหรับ อัตราการว่างงานแล้ว มาตรการ QE3 จะต้องมีการพิจารณา." -IEA จะปล่อยน้ำมันออกสู่ตลาด60ล้านบาเรล เพื่อชดเชยการส่งออกน้ำมันจากลิเบีย ส่งให้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงแตะ 90$ -ยอดขายบ้านในUSร่วงลงถึง2.1%ในเดือนพ.ค. -การเคลมสิทธิการว่างงานในUSยังคงพุ่งสูงขึ้นไม่หยุด (ทุกอย่างแตกโพล๊ะในคืนเดียว)

วางกลยุทธ์ night trade - Gold,Silver Future

พวกเราเล่น GF กันเป็น Portfolio ทำให้มีความได้เปรียบในการบริหารและการพัฒนากลยุทธ์ได้หลากหลายและมีความยืดหยุ่น สูง ล่าสุดผมได้ไอเดียจากเพื่อนนักลงทุนของพวกเรา หลังจากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ได้เฝ้ามอง Goldและ Silver ในช่วง Night tradeว่ามันผันผวนและเล่นยากสุดๆ ในขณะที่พวกเราเล่นแบบเดิมได้กำไรกันดีอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงให้พวกเรามีโอกาส(และความเสี่ยง)เพิ่มขึ้นในช่วงกลางคืน เราก็ต้องแสวงหาผลประโยชน์จากมันให้ได้ ผลสรุปวิธีการตอนนี้คิดว่าน่าพอใจ เพราะว่า 1.เหนื่อยน้อยไม่ต้องลุ้นแบบง่วงๆ 2.เป็นAdd-onจากกลยุทธ์เดิมที่ใช้ได้ดีอยู่แล้วจึงไม่น่าทำให้ผิดหวัง   ที่พวกเราจะActionกัน ก็ไม่มีอะไรพิเศษนอกเหนือไปจากวางorderทั้งซื้อและขายในช่วงพักเที่ยง เพื่อให้orderส่งผ่านไปยังช่วงnight tradeนี้เราควรจะได้รับประโยชน์จากมันมากๆ(ย้ำมากๆ)หากเกิดmatchedขึ้นมาทั้งนั้น  โดยโอกาสความเป็นไปได้ที่orderนี้จะmatchมีแต่ไม่สูง เพราะเราเล็งเห็นแล้วว่าตลาดในตอนกลางคืนเขย่ากันแรง แต่แล้วในที่สุดทองคำยังคงเป็นขาขึ้นที่งดงามอยู่ครับ(แม้กระทั่งในคืนนี้ก็ไม่ยอมออกSide-wayในภาพใหญ่<-เหมือนราคาทองมันเอาใจเรา

ภาวะทองคำ 15-6-54

สำหรับทองคำ เมื่อวานผมไม่ได้ call และ E-mailเข้าไป เนื่องจากคิดไม่ตก  ประเด็นคือ 1.จีนกันเพิ่มสำรองธนาคารแทนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรัดเข็มขัดทางเศรษฐกิจอย่างที่ได้คาดการณ์ไว้ 2.เรื่องปัญหาหนี้สินในEUและเศรษฐกิจUSยังต้องจับตามอง 3 การซื้อ-ขายของ Dominant player สามารถทำให้ราคาหลุดแนวรับสำคัญได้ แม้ประเด็นในการขายอาจไม่หนักแน่นเท่ากับการแกว่งตัวของราคาที่รุนแรง ผมเรียบเรียงความคิดได้ว่าสำหรับจีนที่เพิ่มสำรองธนาคารแทนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นถือเป็นการรัดเข็มขัดทางเศรษฐกิจได้เหมือนกัน กล่าวคือแทนที่จะดึงเม็ดเงินในเศรษฐกิจ(Money Supply)กลับเข้ามาในระบบด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย  จีนเลือกที่จะกันสำรองธนาคารซึ่งจะทำให้การปล่อยสินเชื่อในระบบเศรษฐกิจน้อยลง การที่จีนเลือกแบบนี้น่าจะส่งผลบวกกับราคาทองคำเพราะการขึ้นดอกเบี้ยมีผลทำให้ผู้คนขาย Risky asset (สินทรัพย์เสี่ยง)เพื่อไปซื้อRisk-free asset (สินทรัพย์ปลอดความเสี่ยง)ในที่นี้ว่ากันง่ายๆคือ พันธบัตรรัฐบาล จากการประเมิณในลักษณะนี้ผมว่าทองคำน่าจะขึ้น แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าตรรกะแบบนี้จะถูกต้องในสถาณการณ์แบบนี้หรือไม่ พ่วงด้วยเหตุผลจากข้อ2.และ3แล

ภาวะทอง 14-6-54

สรุปเมื่อคืน สั้นๆ ทองคำโดนขายจาก SPDR เกือบ 1 ตันทำให้หลุดแนว 1530 ลงไปถึง 1510 เป็นการลงแรงสุดวันเดียวในรอบเดือน แต่มี rebound กลับมาได้ครึ่งนึงที่1520 เนื่องจากยังมีความกังวลเดิมๆเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการอ่อนค่าของ $ ครับ Low/High 1510.10-1533.50

QE3 (quantitative easing 3 )

DOW ลากมาซะ 12,000 กว่าจุดพึ่งจะมาบอกว่าเป็นกังวลว่าเศรษฐกิจ US อาจจะฟื้นตัวได้ลำบาก ...ผมใช้คำว่า"ลากมา"เหมือนกับจะบอกว่าก่อนหน้าที่DOWขึ้นมา มันขึ้นมาไม่จริง? ถ้าได้ติดตามกันมาตลอดก็จะจำได้ว่าผมไม่เคยเชื่อถือตัวเลขพื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐ เศรษฐกิจสหรัฐจากช่วงปลายปีที่แล้วอาศัยมาตรการ QE2ในการพยุงเศรษฐกิจให้เอาตัวรอดจากปัญหาโรควิกฤตSub primeเรื้อรัง ในขณะที่มีความจำเป็นอย่างมากในการพิมพ์เงินออกมาช่วยเหลือ(BailOut)ผลที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือเงินเฟ้อ ข้าวของแพงขึ้น ค่าครองชีพแพงขึ้นทุกวันๆ แต่แล้วในที่สุดมาถึงวันนี้อัตราการว่างงานใน US ก็ไม่ได้ดูดีขึ้นแต่อย่างใดทั้งๆที่DOW rallyขึ้นซะขนาดนี้ มองเข้าไปดีๆแล้วผู้คนจะยิ่งแย่กว่าเก่าด้วยซ้ำ เพราะผลกรรมที่ผู้คนทั่วไปในUSต้องทนแบกรับคือ 1.จนลงเพราะค่าเงิน$อ่อนลงยวบยาบ ชนชั้นล่างประเภท Backpackerคงมาเที่ยวเมืองไทยเป็นเดือนๆไม่ได้เหมือนแต่ก่อน (กลับกันคนนอกUSรวยขึ้น โรงแรม,สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆUSต้อนรับนักท่องเที่ยวจากเอเซียมากขึ้น) 2.ข้าวของแพงขึ้น ค่าครองชีพแพงขึ้นจากเงินเฟ้อ 3.การว่างงานสูงขึ้นจึงต้องแก่งแย่งในการเอาตัวรอดใน

วิธีให้รางวัลตัวเอง

เมื่อได้จุดเปิดpositionแล้วให้กำหนดจุดปิดpositionทันที โดยลากเส้นผลตอบแทน(สีฟ้า) จากรูป(ราคาGold spot)  ผมให้ผลตอบแทนตัวเองวันละ 3.875 เหรียญ ตัวเลขนี้มันก็มาจากเส้นผลตอบแทนหรือค่าความชัน (Slope)จากกราฟนั่นเอง โดยคำนวณจาก ผลต่างแกนตั้งหารด้วยผลต่างแกนนอน หรือ ผลต่างราคาหารด้วยผลต่างจำนวนวัน   ในกรณีที่เรามี positionถูกทางแล้วหากราคามันยังอยู่เหนือเส้นผลตอบแทนผม ผมก็จะนอนกอดpositionไปเรื่อยๆอย่างนั้น อาจแจ้ง Marketing หรือทำโปรแกรม Stock alert เพื่อเตือนราคาหากมันตกลงมาต่ำกว่าเส้นผลตอบแทนที่ผมสร้างขึ้น ณ.วันนั้นคือวันที่ผมให้รางวัลตัวเองคือผลสรุปของกำไรที่ได้ทั้งหมด  โดยการปิด position และจะไม่สนใจว่าวันพรุ่งนี้ราคามันจะกลับไปเหนือเส้นผลตอบแทนได้อีกครั้ง อย่างนี้ดีมั้ยครับ จะขายหมู หรือขายอะไรก็ชั่งเถิด เพราะผลตอบแทนมันขึ้นอยู่ Slopeหรือเส้นผลตอบแทนที่ผมได้กำหนดเองจากความพอใจของผมอยู่แล้วนี่นา ข้อสังเกต หากกำหนด Slope ชันเกินไป=ต้องการผลตอบแทนเร็ว...ก็จะทำให้ถูกปิด position ได้เร็วกว่าSlopที่ราบกว่า จะ let's profit runได้สั้นกว่าแต่หากโชคดีเป็นจุดกลับtrendพอดีก็จะขายได้เกือบhigh