ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ภาวะทองและSET : window dressing ไตรมาส2 , 28-6-54


อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่า กองทุนในประเทศจะเข้ามาทำ window dressingในช่วงไตรมาส 2ในช่วงปลายเดือนนี้ แต่กว่าจะมาซื้อให้เราได้เห็นชัดๆก็เพิ่งจะมาเอาวันนี้โดยซื้อสุทธิไป 1512 ล้านบาท อย่างไรก็ดีSETไม่ได้ปรับตัวขึ้นแรงเพราะต่างชาติยังเทขายเนื่องจากอานิสงค์ความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศ และอานิสงค์ $ ที่ปรับแข็งค่าขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากการเติบโตของ GDP (ไม่มากแถบการบริโภคยังลดลง) แล้วก็เงินสกุลแถบยูโรโซนที่อ่อนค่าอย่างฉับพลัน เพราะความเสี่ยงภาระหนี้สินในแถบยุโรปหลังจากที่ทราบกันดีว่ามีกรีซแล้วลำดับถัดไปคือ อิตาลี / สเปนและก็โปรตุเกส

เรื่อง $ที่แข็งค่าขึ้นนั้น เป็นเหตุผลที่ฝรั่งดำเนินการโยกเงินออกจากบ้านเราได้ไม่ยาก เพราะถ้ามัวแต่จะถือค่าเงินบาทที่ทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับ $ที่จะแข็งค่าขึึ้นมาก ก็จะมีแต่ขาดทุนเพราะค่าเงินบาทอ่อนค่า คิดสะระตะแล้ว แม้ฝรั่งอาจได้กำไรจากหุ้นเพราะว่าลากได้ไม่ยากนั้น แต่ถ้าค่าเงินบาทอ่อนเมื่อนำเงินกลับประเทศโดยการแลกเป็น $ สรุปผลลัพธ์อาจเป็นขาดทุนเลยก็ได้ และเมื่อนำเหตุผลนี้มาคิดรวมกับความเสี่ยงทางการเมือง ที่เป็นปัจจัยที่นักธุรกิจไม่ชอบมากที่สุดเพราะว่าเป็นระดับการวิเคราะห์ที่ยากสุดจะหยั่งถึงแล้ว ก็ยิ่งทำให้ฝรั่งสรุปความได้ง่ายว่าในระยะสั้นแล้วชิ่งออกไปก่อนจะดีซะกว่า

ที่จริงก็ไม่อยากพูดเรื่องการเมืองเลยแต่เอาสักหน่อย โดยปกติแล้วนักลงทุนต่างชาติจะชอบรัฐบาลชุดเก่าให้ได้รับสิทธิ์เป็นรัฐบาลต่อเหตุผลง่ายๆคือ มีการดำเนินโครงการรัฐบาลที่ค้างคา และแผนงานที่เคยประกาศเอาไว้ ซึ่งในที่นี้หากพรรค ปชป ชนะการเลือกตั้งก็จะทำให้สามารถสานต่อนโยบายที่เคยทำไว้ได้ไม่ยาก  แต่หากพรรค พท ชนะการเลือกตั้งอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงการรัฐบาล และแผนงานต่างๆซึ่งต่างชาติอาจจะยังไม่ได้ประเมิณเอาไว้ก่อน..........ส่วนเรื่องความขัดแย้งนั้น ผมว่าไม่ว่าจะออกมาแบบไหนก็ความขัดแย้งก็จะยังมีต่อไป แม้ว่าทุกพรรคการเมืองจะจับมือกันโดยอ้างปรองดอง ซึ่งในที่นี้คุณอภิสิทธิ์เองก็ไม่ได้ตอบปฏิเสธเรื่องนี้ซะทีเดียว ผมว่าก็น่าจะมีการดำเนินโยบายหรือกฏหมายบางอย่างซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มพันธมิตรออกมาอยู่ดี....ก็จะขอมีความเห็นแบบเดียวกับคุณเอกยุทธว่าหากพรรคปชป.ชนะการเลือกตั้งน่าจะเป็นผลดีกับSETมากกว่า

ไหนๆก็ไม่ใช่ภาวะของการลงทุน
มาเก็งกำไร window dressingกัน วันนี้กลุ่มbankซื้อมาเยอะละ
พลังงานยังไม่น่าเสี่ยง งั้นลอง LH  IVL THAI ดูครับ


ส่วนทองคำ ส่งshort notesไปให้เยอะมากๆละ ขอสั้นๆว่าช่วงนี้ทองคำให้่ความสำคัญกับเรื่องค่าเงินมากๆ เมื่อเราอ้างอิงGold spotแต่ลงทุนกับGoldไทยก็ต้องมีการแปลงค่าของสกุลเงิน(รวมถึงน้ำหนักและความบริสุทธิ์ทอง) จึงทำให้เวลา Gold spot ลง Goldไทยลงไม่มากเท่าที่ควร และกลับกันเวลา Gold spotขึ้น Goldไทยขึ้นไม่มากเท่าที่ควร เพราะคำนวณออกมาแล้วมันจะไปหักกลบกันในทิศตรงข้าม มองๆGold ไทยเลยไม่ค่อยสนุกเหมือนGold spotที่เล่นสไลเดอร์แรงๆเท่าไรครับ

ปล.บล็อกนี้ไม่ใช่บทความทางวิชาการ เป็นการแสดงความเห็นเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัญญัติ 10 ประการ ของวิชาเศรษฐศาสตร์

แต่ละคนเลือกตัดสินใจกันอย่างไร  ? บทบัญญัติที่ 1 : แต่ละคนเผชิญภาวะ “ได้อย่าง-เสียอย่าง” (Tradeoffs) เสมอ There is no such thing as a free lunch การแลกกันระหว่าง “ประสิทธิภาพ” (Efficiency) และ “ความยุติธรรม” (Equity) การตระหนักรู้ในภาวะ “ได้อย่าง-เสียอย่าง” ก็มีความสำคัญเพราะคนสามารถมีการตัดสินใจที่ดีก็ต่อเมื่อทราบถึงทางเลือกต่าง ๆ ที่เขามีอยู่ บทบัญญัติที่ 2 : ต้นทุนของสิ่งหนึ่งคือสิ่งที่คุณยอมเสียไปเพื่อให้ได้ของสิ่งนั้นมา ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ สิ่งที่คุณยอมสละไปเพื่อให้ได้มาซึ่งของสิ่งนั้น การตัดสินใจทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเรียนต่อหรือไม่ ผู้ตัดสินใจควรคำนึงถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้น นักกีฬาที่อาจทำเงินได้เป็นล้าน ๆ หากออกจากโรงเรียนไปเป็นนักกีฬาอาชีพจะตระหนักดีว่าต้นทุนค่าเสียโอกาสในการเรียนต่อของเขาสูงมาก และไม่น่าแปลกใจที่เขาเหล่านั้นเลือกออกจากโรงเรียน เนื่องจาก ประโยชน์ที่ได้จากการเรียนน้อยกว่าต้นทุนที่เกิดขึ้น บทบัญญัติที่ 3 : คนที่มีเหตุมีผลคิดแบบ “เพิ่มทีละหน่วย” (Margin) การเปลี่ยนแปลงแบบเพิ่มทีละหน่วย หรือ “Margina

กระบวนการ(process) สำคัญกว่า ผลลัพธ์(output)

ฝากถึงน้องๆที่เรียนหรือทำงานสายการตลาด หรืองานใดที่มีเป้าหมาย(goal)เป็นสำคัญ รวมถึงท่านผู้บริหาร.... อย่าได้ไปสนใจผลลัพธ์[output] เป้าหมายหรือคะแนนที่ได้ มากจนเกินไป หลายครั้งที่ผลลัพธ์นั้นเป็นปัจจัยที่เราไม่อาจควบคุมได้ หรือต้องใช้โชคช่วย(ดวง) แต่ถ้าเรามีการทำงานหรือมีกระบวนการทำงาน(PROCESS)ที่ดี ...แม้ว่าผลลัพธ์วันนี้ยังไม่ดี จะขอให้เชื่อมั่น และมั่นใจ ในประสิทธิภาพของกระบวนการทำงานที่ดี และมีคุณภาพ ว่าสักวันหนึ่ง ผลลัพธ์ที่ดีจะต้องตามมา อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว แต่หากบางท่านมีกระบวนการที่ไม่ดี แต่ดันโชคช่วยมีผลงานที่ดี ก็อย่าได้เบาใจ จะขอให้ จงระมัดระวัง ว่าผลลัพธ์หรือลูกค้าที่ดีนั้น จะอยู่กับท่านได้ไม่นาน หรืออาจจะไม่มีอีกต่อไปก็เป็นได้ เพราะว่าดวงที่ดี จะไม่มาช่วยท่านอยู่บ่อยๆหรอก สรุปคือ ... "กระบวนการดี ผลลัพธ์ดีแน่ กระบวนการไม่ดี ผลลัพธ์ไม่แน่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ อย่าบ้าผลลัพธ์มากจนเกินไป สิ่งสำคัญคือการพัฒนาการทำงาน ไม่ใช่ทำทุกทางเพื่อความสำเร็จ สำเร็จแล้วมิใช่เอาแต่ทำบุญหวังโชค หากต้องพัฒนาตนให้ก้าวต่อไปด้วย จึงจะมั่นคง" ปล.ต่อยอดความคิดจ

SET : เกมผลประโยชน์ SET - TFEX

ระยะหลังๆตลาดแลดูเหมือนว่า TFEX จะเป็นตลาดหลักสาหรับนักลงทุนโดยเฉพาะรายใหญ่ มากกว่า SET ซึ่งเป็นตลาด Spot ซะแล้ว .... ตามหลักการและทฤษฎีการลงทุน Future จะเคลื่อนไหวตามสินทรัพย์อ้างอิงซึ่งเรียกว่า Spot ในที่นี้ก็คือหุ้นในตลาด SET ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ควรจะเป็นไปตามนั้น ... แต่ ... ความเป็นจริงสาหรับการลงทุนในตลาดบ้านเราคล้ายกับว่า SET วิ่งตาม TFEX มากกว่า ... เหตุผลที่ผมต้องเรียนเช่นนั้น ก็คือ 1)Future ในตลาด TFEX มีอัตรา Leverage ( อัตราทด ) ของเงินลงทุนมากกว่า 10 เท่า จึงทาให้อานาจของเงินลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลและแน่นอน กาไร / ขาดทุนก็มีอัตราทดตามนั้นด้วยเช่นกัน 2)Long หรือ Short ได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะฝั่งขายไม่ต้องผ่านธุรกรรม SBL ( ยืมหุ้น ) ให้ยุ่งยากเสียเวลา และ 3) สาคัญมาก .... วันไหนที่ผู้เล่นรายใหญ่เก็งทิศทาง FUTURE สวนทางกับปัจจัยพื้นฐานหรือภาวะตลาดโลก ตลาด SPOT ก็จะไม่วิ่งไปในทิศทางที่ทาให้ผู้เล่นรายใหญ่ขาดทุนเด็ดขาด ทั้งๆที่ข้อมูลนั้นจะส่งผลต่อกาไรต่อ บ . จดทะเบียนนั้นโดยตรง .... ตัวอย่างเช่น วันจันทร์ ผู้เล่นรายใหญ่ = นาย F ทาการ Long Set50Future ไว้เป็นจานวนมาก วันรุ