ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2010

ภาวะหุ้นและทอง 15-12-10

ทองคำ : update จากเมื่อคืนจากการประชุม FED ผลคือ คณะกรรมการเฟดยืนยันว่าจะยั งคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบั ตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐ มูลค่ารวม 6 แสนล้านดอลลาร์ภายในสิ้นสุ ดไตรมาส 2 ของปีหน้า ตีความได้ว่าไม่มีประเด็นกดดั นสำหรับราคาทองคำ แต่ค่าเงิน $ แข็งค่าขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจค้ าปลีก และ PPI แถมด้วย SPDR ขาย -3.04 ตันจึงทำให้ทองคำย่อลงมา ที่1395 จาก 1409 อย่าไงรก็ดีแม้ SPDR ขายแต่ก็มีแรงซื้อกลับจากนั กลงทุนกลุ่มอื่นในตลาดทองคำ สรุป ดูเผินๆแล้วเหมื อนทองคำจะลงจากการดีดกลับของ $ มากกว่า และ USA จะยังคงมีต้องการพิมพ์เงินเพิ่มซึ่ งจะส่งผลให้ $ อ่อนค่าต่อไปครับ   SET : เห็นตลาด TFEX มีปริมาณ การ SHORT  Future ค่อนข้างมาก โดย Short สุทธิไปถึง 7015 สัญญา ปกติแล้วผมจะไม่ค่อยเห็นตั วเลขที่มากขนาดนี้ แต่เท่าที่ดูข่าวทางด้านปัจจั ยพื้นฐาน ไม่น่าจะมีประเด็นที่มำให้ SET ลงได้มากขนาดนั้น เอาเป็นว่าก็ไม่ต้องตกใจมากเกิ นไปนัก เพราะเท่าที่ผมสังเกตดูน่าจะเป็ นการ Short ปิดสัญญาสัญญาเดือน Z ที่กำลังจะหมดในปีหน้าและข้ ามไปเปิดใน สัญญาเดือน H 11 ที่จะหมดอายุในไตรมาสปีหน้าโน่ นครับ

ภาวะทองคำ 8/12/10

ขอบคุณ ภาพจาก Bisnews อย่างที่เคยเรียนไว้ใน      http://goodnum.blogspot.com/ 2010/11/30-11-10_30.html เรื่องของทองคำที่หลังจาก  Break Previous All Time High  เป็น  New All time High  ใหม่นั้น หลังจากนั้นจะมี  correction ราวๆ  100 $ ครั้งนี้ทองคำก็ทำ  New all time high  ใหม่จนได้ที่ระดับ  1430  หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที ก็ถูกรายใหญ่เทขายออกมาอย่างแรง ขณะนี้ทองคำอยู่ราวๆ  1400  เท่านั้น คำถามคือ .... ทองคำจะเกิด  correction  ราวๆ  100 $  อย่างที่เคยให้ข้อสังเกตไว้มั้ย  ? ( หากเป็นจริงน่าจะลงไปราวๆที่  1325) ตอบ....รอบนี้ไม่เหมือนรอบก่อน กล่าวคือ ขณะที่ทำ  new high  ใหม่ ขณะนั้นระดับ  RSI  ไม่  Overbought  และไม่ได้ทิ้งช่วงเวลาสัก 3-4 วั นถึง หนึ่งสัปดาห์เพื่อทำ  high  ใหม่เรื่อยๆก่อน  correction  ลงมาที่  1400 ดังนั้น หากท่านเชื่อข้อสังเกตุนี้ ทองคำที่โดนแรงเทขายออกมาเมื่ อคืน ก็อาจจะกล่าวได้ว่า ทองคำแค่ปรับฐานระยะสั้นเท่านั้ น แต่มันค่อนข้างรุนแรง เนื่องว่าก่อนหน้ามันขึ้ นมาแรงในระยะสั้นๆด้วยเช่นกัน.. ....ณ ระดับราคาปัจจุบันผมคงไม่ฟันธง (เพราะไม่รู้อนาคต แต่คาดการณ์และจั บกระแสภาว

ภาวะ China&Gold 2010 (สั้นๆ)

จีนนำเข้าทองคำ 209.7 ตันในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี ที่แล้วถึง 480 %  ความเห็น :  ช่วงนี้จีนนำเข้าทองเป็นปริมาณมหาศาล ยังไง จีน ก็ต้องซื้อทอง เพื่อต่อสู้กับการที่จีนถือ US Bond (เป็นเจ้าหนี้ US , ไม่ต้องแปลกใจเดี๋ยวนี้ใครๆก็เป็นเจ้าหนี้ US กันทั้งนั้น) ที่มีแต่จะอ่อนค่าลงเรื่ อยๆ / กับเงินเฟ้อของประเทศจีนอั นมาจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิ จอย่างรวดเร็ว .....ทั้งสองประเด็นนั้น การเข้าซื้อทองคำสามารถมานำปรั บค่าเพื่อลดความเสียหายนั้นได้  เรียกว่าเป็น Hedging Risk  ตรรกะ คือ เมื่อ $ อ่อนค่า > Commoditiesจะแพง / เงินเฟ้อจะสูง / ทองคำจะแพง (ท่านที่เทรดกันประจำคงจะเข้ าใจตรรกะง่ายๆ ในการลงทุนทองคำแบบนี้ดีแล้ วนะครับ) ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับทองคำในจีน : - เมื่อปีที่แล้วจีนซื้อทองคำสู งถึง 454 ตัน -  ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ ปรับขึ้น 4.4 % ในเดือนต.ค. ซึ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากราคาอาหาร ที่แพงขึ้น โดยยังนับเป็นตัวเลขเงินเฟ้อ ซึ่งสูงกว่าที่รัฐบาลตั้งเป้ าไว้ 3.0 % - การซื้อขายทองคำของนักลงทุ นรายย่อยเพิ่มถึง 973.8 ตันในช่วงดังกล่าว ซึ่ง

ภาวะหุ้นและทอง 30-11-10

จาก หนุ่ม : ทองคำ / เล่นรอบ   ในหลายๆครั้งทองคำจะลงแรงหรือถูกเทขายอย่างหนัก ( correction ) เกือบๆ 100 $  หรือมากกว่าโดยประมาณ หลังจากที่ Break previous all time high มาได้สักระยะหนึ่ง ถามว่าราคาทองคำจะต้องอยู่สูงขนาดไหนจึงจะถูก Correction ตอบคือ ข้อสังเกตง่ายๆของผมอยู่ที่ว่า ราคาทองมันอยู่ห่างเส้นค่าเฉลี่ย 21 วันมากขนาดไหน ยิ่งห่างมากเท่าไรก็ยิ่งมีโอกาสถูก correction มากขึ้นเท่านั้น เมื่อนำปัจจัยหลักๆของการ Break previous all time high และ เส้นค่าเฉลี่ย 21 วันมาประกอบกับ RSI ที่ Over bought ก็จะคอมเฟริ์มได้ว่าเราได้ขายเกือบๆ High และหลังจากนั้นเราจึงตั้งรับซื้อตามแนวรับ เพื่อรอให้ทองคำมันทำ   All time high ใหม่อีกครั้งนึงครับ

Sell on Fact

Sell on Fact พวกที่เก่งการวิเคราะห์แบบปัจจัยพื้นฐาน( Value Investor) เท่านั้นถึงจะมีโอกาสซื้อของดีราคาถูกได้ กล่าวคือ สามารถคาดการณ์ได้แม่นยำว่าราคาหุ้นที่กำลังซื้อขายกันอยู่ณ.ปัจจุบันนั้นราคาต่ำกว่ามูลค่า เนื่องจากเขาได้ประเมิณแล้วว่าหุ้นบ.นั้นจะทำกำไรได้สูงในอนาคต กลุ่มคนพวกนี้จะสามารถซื้อหุ้นได้ถูกสุดๆ (ในช่วงเวลา wave1 ของ Elliot wave) แม้ว่าหุ้นจะลงไปมากขนาดไหนพวกเขาก็ไม่กลัวแม้แต่น้อยที่จะช้อนซื้อ และจะไม่มีการ Cut loss เลยแม้แต่นิด เพราะเขารู้แน่ๆว่ามันจะขึ้นจากข้อมูลที่มีอยู่ในมือ (โดยที่ไม่ได้คิดไปเอง) แต่เอาเข้าจริงๆแล้วพวกกลุ่มคนที่เป็นเซียนด้านปัจจัยพื้นฐานอย่างแม่นยำและเฉียบคมนั้นก็คือ กลุ่มคนที่รู้ข้อมูลภายใน (Insider) นั่นเองครับ.........คำพูดที่เราฟังแล้วรู้สึกแปลกๆก็คือ Sell on Fact ใช่มั้ยครับ ? ตอนผมเริ่มลงทุนใหม่ๆ(จบบัญชีมาด้วย ประมาณว่าดูงบการเงินพอเป็น) ก็ งงๆ ว่าเมื่อมีข่าวดี ผลกำไรเติบโตตามคาดการณ์แล้วทำไมจึงถูกเทขาย เบื้องหลังคำพูดนี้ก็คือ เหล่า Insider เก็บหุ้นกันมาก่อนหน้าแล้ว จึงเริ่มปล่อยข่าวให้สัมภาษณ์ บทวิเคราะห์,ข่าว นสพ.ต่างๆเริ่มประชาสัมพันธ์ให้นักล

ประกาศงดเผยแพร่ความเห็นทางBlogเป็นการชั่วคราว !

ประกาศงดเผยแพร่ความเห็นทางBlogเป็นการชั่วคราว ! โดยจะให้ความเห็น บทวิเคราะห์ และข่าวสารต่างๆผ่านทาง E mail และทางโทรศัพท์เท่านั้น กรุณาติดต่อเพื่อรับข้อมูล ฟรี! ได้ที่ goodnum@gmail.com ครับ

6-10-53

ภาวะหุ้นและทอง 30-09-10 (ค่ำ 29-9)

Marginal Thinking SET : ช่วงนี้บรรยากาศใน SET ดูเหมือนจะคล้ายๆในช่วงเดือนก.ค.ที่ SET อยู่ในระดับ 840 ในช่วงนั้นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์รวมทั้งสถาบันในประเทศต่างมองว่า SET น่าจะปรับตัวลงเนื่องจากวิ่งขึ้นมาแรงในระยะเวลาอันสั้นจากแถวๆ 720 ต่างทยอยขายออกมา ซึ่งสวนทางกับทิศทางกระแสเงินที่ไหลเข้ามาใน SET บ้านเราจึงทำให้ SET วิ่งขึ้นมาแถวๆ 970 จุดได้ในเมื่อวาน ( คนที่ซื้อกองทุนหุ้นรบกวนเช็คด้วยว่ากองทุนหุ้นท่านมีกำไรตามตลาดไหม ?) ต้องทวนความเข้าใจกันอีกทีว่าเมื่อเงินทุนไหลเข้าประเทศไทยจะทำให้ค่าเงินบาทแข็ง ตีความเป็นการกระทำได้ดังนี้คือ เช่น นักลงทุนจากประเทศ USA ต้องการเข้ามาลงทุนในไทย แต่เขาถือเงิน $ จำต้องเอาเงิน $ เข้ามาแลกเป็นเงิน B เพื่อทำธุรกรรมในไทยได้ ดังนั้นอยู่ดีๆเมื่อเงิน Baht มีคนต้องการแลกมากๆนั่นหมายถึงมีความต้องการซื้อ( Demand) ในเงินบาทมาก ...เมื่อมี Demand มากๆธรรมดาสิ่งๆนั้นราคาย่อมสูงขึ้น ซึ่งในที่นี้ก็คือ ค่าเงินบาทแข็งค่ามากขึ้นนั่นเองครับ ( จาก 31 ลงไป 30 usd/thb คือค่าเงินบาทแข็งขึ้นเพราะเราใช้เงินบาทน้อยลงในการเปลี่ยนเป็น usd) มีคนถามผมว่า อย่างที่ผมเคยเรีย

ภาวะหุ้นและทอง 08-09-10(ค่ำ 070910)

ช่วงนี้งานเอกสารเยอะ ผมจำเป็นต้องทำงานหลักของผมก่อน จึงจะมีเวลามาเขียนให้ท่านได้อ่านกัน มีเรียกร้องกันเข้ามาพอสมควรหลังจากหายไปนาน (ยังไงก็โทรมาก็ได้นี่นาครับ ) ทอง : ราคาที่ 1243 แข็งอะคับ มองสั้นๆอาจจะเป็นแนวรับแบบ double , triple หรือ multiple bottom ไม่สำคัญ สำคัญที่ว่ามันแข็ง ราคาทองจึงไม่ค่อยลงจากระดับนี้ ถึงลงไปหลุดลงไปให้ตกใจกันบ้าง แต่ก็มีซื้อกลับจนมายืนเหนือ 1243 ได้ทุกครั้ง บางครั้งนึกเล่นๆเราอาจจะโชคดีก็ได้นะ (ซึ่งก็โชคดีจริงๆเพราะยังไม่เคยแนะนำให้ short) ที่ราคาทองในช่วงเวลาที่เราซื้อขายกันมันมายืนตรงนี้ได้ ก็เลยมีคนมาแซวผมว่า เอ๊ะ ! ถ้าเราเทรดได้ 24 ชั่วโมง พอถึงตอนที่ราคามันหลุดแนวรับ คุณหนุ่มก็คงแนะนำให้ cut loss แล้วสิ ผมก็เลยตอบว่า “อาจจะ...” ที่บอกว่าอาจจะก็คือ ทองคำเป็นตลาดของนักลงทุนทั่วโลกที่เข้ามาซื้อขายกัน ข้อมูลข่าวสาร เทคนิคการวิเคราะห์ต่างๆก็ใช้ร่วมกัน แทบจะตำราเดียวกัน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือ ศิลปะ และวิจารณญาณของท่านเอง เพราะบางครั้งการที่ทุกคนรู้เท่ากัน มีจุดซื้อ - จุดขายที่เดียวกัน มันก็ง่ายสำหรับกลุ่มคนหรือกองทุนที่เขี้ยวๆทั่วโลก ที่จะปั่นหัวท่านไ

ภาวะหุ้นและทอง 3-9-10

สรุปข่าวมาบตพุตช่วงเย็นเมื่อวาน (2 ก.ย. 53) -----5 นาทีที่ขายทิ้ง (Dump) อัยการเจ้าของคดี กล่าวว่า โครงการที่เข้าข่ายใน 11 ประเภทกิจการที่มีผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม แต่คำสั่งศาลให้ยกเลิกใบอนญาต และให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าโครงการที่เข้าข่ายจะสามารถดำเนินการด้านการจัดทำเอกสารด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการ หากโครงการดังกล่าวจำเป็นต้องมีการจัดทำเอกสารด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมก็ให้ดำเนินการเพื่อมาขอออนุญาตดำเนินโครงการเพื่อพิจารณาต่อไป -----ช่วงเวลาที่ซื้อคืน อัยการระบุว่า 2 โครงการที่ต้องกลับไปนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ สวล.อีกครั้ง คือ โครงการโรงงานผลิตเอทิลีนออกไซด์และเอทิลีนไกลคอน(ส่วนขยาย)ของบริษัท ทีโอซี ไกลคอน จำกัดในเครือ บมจ.ปตท.เคมิคอล( PTTCH) และ โครงการขยายกำลังการผลิตไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ของ บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์( TPC) " ถ้าหากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ เห็นว่าโครงการทั้ง 2 ต้องจัดทำ EIA และ HIA ใหม่ ก็สามารถดำเนินการได้ เพราะโครงการดังกล่าวไม่ได้ผลกระทบรุนแรงถึงขนาดที่จะต้องหยุดดำเนินโคร

ภาวะหุ้นและทอง 26-8-10

ทองคำ : ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมาจาก Best Buy 1160 จนมาเกือบปิด Gap ที่ 1243 ซึ่งเป็นจุดที่ Dump ราคาทองคำลงมาเพื่อไปโยกเงินออกไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้น จากการทำ Stress test ธนาคารทางฝั่งยุโรปออกมาดูดีส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจมากขึ้น ถ้าจะให้ตีความจากราคาทองคำที่กลับขึ้นมาได้ก็คือ จากความเชื่อมั่นในการทำ Stress test นั้นนักลงทุนก็ยังคงไม่เชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจต่อไป เพราะหลังจากการทำ Stress test แล้ว ข้อมูลทางเศรษฐกิจต่างๆทั่วโลกก็ออกมาไม่ค่อยจะดูดี โดยเฉพาะใน USA ถึงแม้ข้อมูลทางเศรษฐกิจไม่ดีแต่ตลาดหุ้นก็ยังคงขึ้นต่อได้...เงินจากกองทุนทางฝั่งยุโรปจึงยังคงไหลมาที่ทองคำ และประเทศทางฝั่ง SouthEast-Asia หนึ่งในนั้นมีประเทศไทยด้วย จึงส่งผลให้ ราคาบาท (BAHT) ไทยแข็งขึ้นมาก ส่งผลต่อเนื่องมาที่ราคาทองไทยจึงถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเปรียบเทียบกับ SPOT ทองก่อนหน้าที่เราเคยซื้อๆกันเมื่อเดือน-2เดือนที่แล้ว จากเหตุผลข้างต้นราคาทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นสำหรับคนที่ยังไม่มี position น่าเข้ามา Long GF ได้ไม่น่าห่วงมาก แนวรับแบบเต็มที่ที่ระดับ 1220 และ 1208 หากลงมาจริงก็ซื้อเพิ่มได้ แต่ประเมิ