ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เล่นทอง นอนไม่หลับ


มีนักลงทุนบางท่านที่เข้ามาสนทนากับผมว่าลงทุนในทองคำทำเอานอนไม่ค่อยหลับ เพราะช่วงเวลาที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงของราคาทองอยู่ในช่วงดึก และก็คาดว่าน่าจะมีอีกหลายท่านที่นอนไม่หลับเช่นกันเพราะต้องคอยเฝ้าจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองเหมือนกับเชียร์ฟุตบอล เพื่อลุ้นให้มันเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนที่จะปิดตลาด โดยเฉพาะ Gold futureที่ปิดตลาดในเวลาเพียง 16.55 น.เท่านั้น

ที่ท่านลุ้นผมก็เข้าใจดีเพราะมันเกี่ยวข้องกับ ความมั่งคั่ง(Wealth)ของท่าน จึงต้องมีการติดตามสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา ผมก็คงจะแนะนำให้กับท่านได้ว่า ใช้ชีวิตตามปกติและก็นอนหลับให้สบายเถอะครับ เพราะทองคำในตลาดโลก จะขึ้นหรือลงไม่ได้อยู่ที่ท่านเพ่งจิตให้มันเป็นไปในทิศทางที่ท่านหวัง มันก็วิ่งไปในทิศทางของมัน ซึ่งปัจจัยต่างๆที่มีผลกระทบนั้น ผมจะเรียนให้ท่านทราบวันรุ่งขึ้นเองละครับ ดีซะอีกท่านจะได้ฝึกธรรมะ ในเรื่องแกนหลักของพุทธศาสนานั่นก็คือ ตถตา แปลว่า เป็นเช่นนั้นเอง ...ผลจะออกมาเป็นอย่างไรกำไรหรือขาดทุน มันเกิดจากเหตุที่เราได้ตัดสินใจอย่างดีที่สุดแล้ว แม้นออกมาไม่ตรงตามที่เราคาดเราก็สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือรูปแบบการลงทุนได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ที่เรียนเช่นนี้ไม่ได้บอกให้ท่านปลง แต่บอกให้ท่านลงทุนอย่างมีความสุข การใช้ชีวิตท่านก็จะโปร่งเบาสบายขึ้น การลงทุนที่สุดยอดก็คือ ลงทุนแล้วเกิดกำไร แต่สุดยอดกว่านั้นคือ ลงทุนแล้วผิดทางแล้วปรับกลยุทธ์จนสามารถกลับมาเป็นกำไรได้ อย่างหลังนี้ถือว่าสุดยอดกว่า อย่างไรก็ตามเอาอย่างแรกไว้ก่อนเป็นดีครับ อิอิ





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัญญัติ 10 ประการ ของวิชาเศรษฐศาสตร์

แต่ละคนเลือกตัดสินใจกันอย่างไร  ? บทบัญญัติที่ 1 : แต่ละคนเผชิญภาวะ “ได้อย่าง-เสียอย่าง” (Tradeoffs) เสมอ There is no such thing as a free lunch การแลกกันระหว่าง “ประสิทธิภาพ” (Efficiency) และ “ความยุติธรรม” (Equity) การตระหนักรู้ในภาวะ “ได้อย่าง-เสียอย่าง” ก็มีความสำคัญเพราะคนสามารถมีการตัดสินใจที่ดีก็ต่อเมื่อทราบถึงทางเลือกต่าง ๆ ที่เขามีอยู่ บทบัญญัติที่ 2 : ต้นทุนของสิ่งหนึ่งคือสิ่งที่คุณยอมเสียไปเพื่อให้ได้ของสิ่งนั้นมา ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ สิ่งที่คุณยอมสละไปเพื่อให้ได้มาซึ่งของสิ่งนั้น การตัดสินใจทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเรียนต่อหรือไม่ ผู้ตัดสินใจควรคำนึงถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้น นักกีฬาที่อาจทำเงินได้เป็นล้าน ๆ หากออกจากโรงเรียนไปเป็นนักกีฬาอาชีพจะตระหนักดีว่าต้นทุนค่าเสียโอกาสในการเรียนต่อของเขาสูงมาก และไม่น่าแปลกใจที่เขาเหล่านั้นเลือกออกจากโรงเรียน เนื่องจาก ประโยชน์ที่ได้จากการเรียนน้อยกว่าต้นทุนที่เกิดขึ้น บทบัญญัติที่ 3 : คนที่มีเหตุมีผลคิดแบบ “เพิ่มทีละหน่วย” (Margin) การเปลี่ยนแปลงแบบเพิ่มทีละหน่วย หรือ “Margina

กระบวนการ(process) สำคัญกว่า ผลลัพธ์(output)

ฝากถึงน้องๆที่เรียนหรือทำงานสายการตลาด หรืองานใดที่มีเป้าหมาย(goal)เป็นสำคัญ รวมถึงท่านผู้บริหาร.... อย่าได้ไปสนใจผลลัพธ์[output] เป้าหมายหรือคะแนนที่ได้ มากจนเกินไป หลายครั้งที่ผลลัพธ์นั้นเป็นปัจจัยที่เราไม่อาจควบคุมได้ หรือต้องใช้โชคช่วย(ดวง) แต่ถ้าเรามีการทำงานหรือมีกระบวนการทำงาน(PROCESS)ที่ดี ...แม้ว่าผลลัพธ์วันนี้ยังไม่ดี จะขอให้เชื่อมั่น และมั่นใจ ในประสิทธิภาพของกระบวนการทำงานที่ดี และมีคุณภาพ ว่าสักวันหนึ่ง ผลลัพธ์ที่ดีจะต้องตามมา อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว แต่หากบางท่านมีกระบวนการที่ไม่ดี แต่ดันโชคช่วยมีผลงานที่ดี ก็อย่าได้เบาใจ จะขอให้ จงระมัดระวัง ว่าผลลัพธ์หรือลูกค้าที่ดีนั้น จะอยู่กับท่านได้ไม่นาน หรืออาจจะไม่มีอีกต่อไปก็เป็นได้ เพราะว่าดวงที่ดี จะไม่มาช่วยท่านอยู่บ่อยๆหรอก สรุปคือ ... "กระบวนการดี ผลลัพธ์ดีแน่ กระบวนการไม่ดี ผลลัพธ์ไม่แน่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ อย่าบ้าผลลัพธ์มากจนเกินไป สิ่งสำคัญคือการพัฒนาการทำงาน ไม่ใช่ทำทุกทางเพื่อความสำเร็จ สำเร็จแล้วมิใช่เอาแต่ทำบุญหวังโชค หากต้องพัฒนาตนให้ก้าวต่อไปด้วย จึงจะมั่นคง" ปล.ต่อยอดความคิดจ

Ben Bernanke : พี่เหม่ง

Ben Bernanke เป็นบุคคลที่ผมชอบเขียนล้อเลียนขำขำ โดยเรียกว่า"พี่เหม่ง" ... เบนันเก้เป็นประธานFedที่รับไม้ต่อจากนายอลัน กรีนสแปน ซึ่งดำรงตำแหน่งเกือบ 20ปี บุคคลที่นักธุรกิจชาวUsกล่าวยกย่องถึงขนาดที่ว่าเป็นเทวดามาโปรด เพราะสามารถทำให้เศรษฐกิจus เติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด อย่างไรก็ดีไม่มีอะไรจะฝืนธรรมชาติได้ การโตอย่างต่อเนื่องมันต้องมีจุดย่อตัวบ้าง แต่ในขณะนั้นเศรษฐกิจus เติบโต เติบโต เติบโต จากมาตรการของนายกรีนสแปน ที่สำคัญก็คือการลดอัตราดอกเบี้ย เมื่อโตอย่างไม่หยุดพัก ก็เหมือนฟองสบู่ลอยล่องรอวันแตก จนกระทั่งพี่เหม่งของผมเข้ามารับช่วงต่อ ฟองสบู่ก็แตกโพล๊ะ พอดิบพอดี -_-" พี่เหม่งของผมก็เลยรับความซวยนี้ไปเต็มๆ ...อย่างไรก็ดีไม้เด็ดของเฮียอย่างQe ถือเป็นการคิดนอกกรอบเพื่อการแก้วิกฤติแบบนึกไม่ถึงเลยทีเดียว จึงทำให้ในปัจจุบันUs สามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตนั้นมาได้ด้วยเงินร้อนๆจากQe 2557ม.ค. ,เฮียกำลังจะหมดวาระ โดยมีแคนดิเดตเช่น ลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส  และ เจเน็ต เยลเลน ที่จะเข้ามารับช่วงต่อ ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อชื่นชมเฮียแกจริงๆครับ คงคิดถึงไม่น้อยเลยอะ ..... T-