ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ภาวะหุ้นและทอง 26-5-2010

ทอง : Greed & Fear (ความโลภและความกลัว) เป็นหลักการทางจิตวิทยาที่ถูกนำมาอธิบายพฤติกรรมในการลงทุน...... ในช่วงนี้ราคาทองถูกหนุนให้สูงขึ้นด้วยทั้ง Greed & Fear , Greed เพราะเห็นผลต่างราคา(Capital gain)ที่น่าสนใจ Fear ในเรื่องสงคราเกาหลีเหนือ-ใต้ Fearในเรื่องวิกฤตหนี้สินยุโรป ( อันที่จริง fearในวิกฤตปัญหายุโรปน่าจะทำให้ทองลงมากกว่าแต่อาจมีมุมมองว่าทองจะเป็น Save Haven ) ราคาทองคำในภาพใหญ่ในช่วงระยะตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงปัจจุบันค่อนข้างแข็งแรงเมื่อเปรียบเทียบกับ $ ที่แข็งค่าขึ้นมาก (วันหน้าจะทำกราฟให้เห็นชัดๆครับ) เพราะแทนที่จะลงอย่างชัดเจนกลับแค่ลงแบบทรงๆออก Side way มากกว่า อย่างไรก็ตามช่วงนี้มี Fear เยอะ แม้ $ แข็งค่าขึ้นมากทองก็ไม่ค่อยลงแถมขึ้นอีกต่างหาก พอทองมันราคาขึ้นสูงๆอารมณ์นักลงทุนจะกลายเป็น Greed พอเริ่มๆจะถึงตรงนั้น ถ้าหากเราพอใจกับกำไรพอเพียงก็จะปลอดภัยกับการ Take Profit อย่างรุนแรงจากกองทุนทองคำได้ครับ / เมื่อคืนSPDR ซื้อหนักมากในเมื่อราคายังไม่ขึ้นปรี๊ดๆน่าจะเป็นโอกาสเข้าซื้อของเราบ้างตอนที่เค้าหลับนี่หละครับ

SET : นักลงทุนหลายท่านคาดการณ์ว่าวันจันทร์ที่ผ่านมา SET น่าจะปรับตัวบวกได้เพราะการชุมนุมจบ แต่กลับกันSET ปรับตัวลดลงแรงเพราะความกังวลวิกฤตหนี้สินยุโรป ช่วงที่เราปิดตลาดตลาดต่างประเทศลงแรงจริงๆต้องบอกว่าลงแรงมากกว่าที่เราลงในวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมานี้มาก เมื่อดูเป็นอัตราส่วนแล้วต้องบอกว่าเราลงน้อยกว่า....ถึงจะอย่างนั้นก็ดีมีคนพูดเล่นๆว่าไหนบอกการเมืองเป็นปัจจัยหลัก พอยิงกันตู้มต้ามSETเขียว พอจบการชุมนุมSETแดงซะอย่างนั้น ผมก็ต้องเรียนว่าปีนี้มีอะไรมาทำให้เราประหลาดใจหลายอย่าง บางอย่างสวนทางกับความรู้สึกอย่างแรง เมื่อผลมันออกมาอย่างนั้นก็ควรให้ความสำคัญกับความจริงที่เกิดขึ้นมากกว่าความรู้สึกของเราเอง.........เมื่อวานที่ผมส่งไฟล์ยอดการซื้อขายนักลงทุนประเภทต่างๆไป หากท่านจะสังเกตการซื้อหรือขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติกับSET index ก็พอจะเดาทิศทางได้ว่าการซื้อขายของคนกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกับSETค่อนข้างชัดเจน และในปัจจุบันก็ต้องพึงสังเกตการ ตลาดTFEX ว่าฝรั่งShort หรือLongสุทธิออกมามากแค่ไหนครับ

SET วันนี้น่าจะ Rebound เพราะ DOW ไม่หลุด 10000 / ค่าระวางเรือ (BDI)ที่ปรับขึ้นแรงมาก / ราคาน้ำมันดิบยืนระดับใกล้ๆ 70 แล้วฝรั่งจะขายทำไมเยอะแยะครับ เล่นค่าเงินด้วยหรือเปล่า

ปล.มีคนถามเรื่อง TMB ทำไมคนถึงชอบเล่นกันผมบอกว่ายังไงเค้าไม่ปล่อยให้ TMB เจ๊งหรอกครับ

ปล.บทความภาวะตลาดหุ้นและทอง จัดทำและส่งทางE-mailเป็นประจำทุกเช้า และจะเผยแพร่ทางBlogอย่างเร็วหลังปิดตลาดภาคเช้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัญญัติ 10 ประการ ของวิชาเศรษฐศาสตร์

แต่ละคนเลือกตัดสินใจกันอย่างไร  ? บทบัญญัติที่ 1 : แต่ละคนเผชิญภาวะ “ได้อย่าง-เสียอย่าง” (Tradeoffs) เสมอ There is no such thing as a free lunch การแลกกันระหว่าง “ประสิทธิภาพ” (Efficiency) และ “ความยุติธรรม” (Equity) การตระหนักรู้ในภาวะ “ได้อย่าง-เสียอย่าง” ก็มีความสำคัญเพราะคนสามารถมีการตัดสินใจที่ดีก็ต่อเมื่อทราบถึงทางเลือกต่าง ๆ ที่เขามีอยู่ บทบัญญัติที่ 2 : ต้นทุนของสิ่งหนึ่งคือสิ่งที่คุณยอมเสียไปเพื่อให้ได้ของสิ่งนั้นมา ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ สิ่งที่คุณยอมสละไปเพื่อให้ได้มาซึ่งของสิ่งนั้น การตัดสินใจทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเรียนต่อหรือไม่ ผู้ตัดสินใจควรคำนึงถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้น นักกีฬาที่อาจทำเงินได้เป็นล้าน ๆ หากออกจากโรงเรียนไปเป็นนักกีฬาอาชีพจะตระหนักดีว่าต้นทุนค่าเสียโอกาสในการเรียนต่อของเขาสูงมาก และไม่น่าแปลกใจที่เขาเหล่านั้นเลือกออกจากโรงเรียน เนื่องจาก ประโยชน์ที่ได้จากการเรียนน้อยกว่าต้นทุนที่เกิดขึ้น บทบัญญัติที่ 3 : คนที่มีเหตุมีผลคิดแบบ “เพิ่มทีละหน่วย” (Margin) การเปลี่ยนแปลงแบบเพิ่มทีละหน่วย หรือ “Mar...

ภาวะหุ้นและทอง 2-7-10

ทอง : รายงานการใช้สิทธิเคลมการว่างงานในสหรัฐพุ่งสูงขึ้นเป็นทวีคูณ จาก 13000 เป็น 472000 ทำให้เงิน $ อ่อนยวบ และตามปัจจัยพื้นฐานนี้ อันที่จริงเท่าที่คำนวณน่าจะทำให้ทองคำบวกขึ้นไปประมาณ + 20 $ ได้ครับ แต่เหตุการณ์ที่เป็นบวกเช่นนี้กลับถูกแรงขายอย่างหนัก นำโดย SPDR แต่ก็ขายเพียงแค่ 1.22 ตันเท่านั้น ผสมโรง Follow by กองทุนทองคำต่างๆก็ขายออกมาตามกันทำให้ทองคำร่วงไปถึง 1195 ถือว่ารุนแรงมาก เมื่อเทียบ จาก ปริมาณขายที่ดูไม่ค่อยจะมากเท่าไรนัก ผมตื่นเช้ามาโดยหวังว่าน่าจะ Rebound กลับไปที่ 1215 ได้สบายๆแต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ขณะที่เขียนเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1202 เท่านั้น ปัจจัยทางเทคนิคที่เราเคยใช้เจ้า SMA 21 วันทำกำไรมา 3-4 รอบนั้นเป็นอันต้องลืมไปก่อนแล้วมาหาจุดสังเกตุกันใหม่ ตอนนี้น่าจะดูที่แนวรับ EMA (E=exponential) 75 วัน ซึ่งให้แนวรับที่ 1194 อันเป็นจุดที่ราคาลงมาทดสอบครั้งนึงแล้วไม่หลุดนั่นเองครับ รายงาน จาก สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าคนจะนำเงิน จาก การขายทองเพื่อไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลเนื่อง จาก ความผันผวนทางเศรษฐกิจ .... อ้าว....ตกลงทองไม่ใช่ Save Haven แล้วหรือ ก็ว่า...

Carbon credit ,ไม่ใช่เรื่องใหม่ มาอ่าน เข้าใจกันง่ายๆดีกว่า

"ผลกำไรของเอกชน เป็นของเอกชนเจ้านั้นๆ แต่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นั่นเป็นของสังคมโดยรวม" การทำธุรกิจเพื่อหวังผลกำไร แต่การดำเนินงานนั้นอาจจะส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมเป็นผลลบสู่สังคม หรือทำให้สังคมขาดทุน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการผลิต  เช่น การผลิตรถยนต์นั้น ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการปล่อย Co2 ออกมาสู่ชั้นบรรยากาศโลกได้ จนทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก หรือเรียกว่า greenhouse effect  ....นี่เป็นต้นทุนทางสังคม Benefit-cost เราเรียกการทำให้สังคมเสียหายนี้ว่า Negative externalities แปลเป็นไทยแบบภาษาพูดง่ายๆ ก็คือ การประกอบธุรกิจเพื่อหวังผลกำไรของเอกชน(หรืออุตสาหกรรมต่างๆ) กำไรเป็นของเอกชน ซึ่งเป็นเรื่องภายในของคุณ แต่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของสังคมนั้นเสียหาย ซึ่งก่อผลกระทบสู่ภายนอก ในปี 2005 ภายหลังที่ บิล คลินตัน ออกมารณรงค์เรื่องโลกเขียว (รักษาสิ่งแวดล้อม) สถิติจากWorld Resources  ระบุว่า สหรัฐฯพี่ใหญ่เป็นคนปล่อยCo2สูงสุดปีละ 5.7 พันล้านตัน อันดับ 2 คือจีน 3.4 พันล้านตัน อันดับ 3 คือ รัสเซีย 1.5 พันล้านตัน ญี่ปุ่น 1.2 พันล้านตัน อังกฤษ 558 ล้านตัน ส่วนไทย 172 ล้านตัน...