ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Surprise แทบหงายหลัง ทั้งหุ้นและทอง /SET&Gold future


เปิดตลาดมาวันจันทร์ยังไม่ได้ทันได้ทำอะไร สำหรับนักลงทุนทองคำก็แทบหงายหลังเนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าสุดๆจากเกือบๆ 31.00บาทลงมาที่แถวๆ30.40บาท นักลงทุนทองคำแม้ผ่านประสบการณ์มาพอสมควรแต่เข้าใจว่าคงไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ผมคงต้องบอกว่า Surpriseเพราะว่าแค่ข้ามคืนวันทำการเดียวหลังวันเลือกตั้ง (พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายได้รับคะแนนเสียงข้างมากโดยมี คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นแคนดิเดทนายกหญิงคนแรกของประเทศไทย) ไม่นับการเปลี่ยนแปลงของ Gold spot เล่นเอา Goldไทยเสียหาย(loss)ประมาณ -420บาท..... เหตุจากได้รัฐบาลใหม่ / ฝรั่งสนใจเข้าซื้อหุ้นไทย / ส่งเงินเข้าราชอาณาจักรไทย / แลกเงิน$เป็นบาทไทย เลยทำให้ค่าเงินบาทไทยแข็งค่า และผลที่ตามมาคือในวันจันทร์ฝรั่งเข้าซื้อหุ้นไทยสุทธิกว่า 10,000ล้านบาท อันนี้ก็เป็น Surpriseใน SETเช่นกันเพราะดัชนีได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 50จุดนับเป็นประวัติการณ์ในรอบ 13 ปีที่ดัชนีปรับตัวขึ้นได้มากขนาดนี้

มีSurpriseเยอะจากนี้ยังไม่หมด ไม่ทันไรวิกฤตหนี้สินในประเทศฝั่งยุโรปแต่ละประเทศต่างเรียงคิวกันมาเพื่อให้ มูดดี้หรือS&Pมาหั่นเครดิต ที่โดนไปแล้วคือกรีซและโปรตุเกส  จึงส่งผลให้SETปรับตัวลงแรงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีหลังจากที่ฝรั่งซื้อหุ้นวันแรกแล้วค่าเงินบาทไม่ได้แข็งค่าขึ้นต่อ แถมSETก็ปรับตัวลงแรงจากแถวๆ1100สู่1072 ตรงนี้เลยทำให้ไม่ค่อยแน่ใจว่าที่ซื้อขึ้นมานั้นเป็นการทำ Short covering หรือ ซื้อปิด นักลงทุนTFEXเข้าใจดีว่าความหมายเป็นศัพท์เทคนิคคือ Long close (ก่อนหน้าได้ทำ Short open)ซึ่งหากเป็นตามนี้จริงก็อาจแสดงได้ว่า gapที่เปิดกระโดดขึ้นมาสูงๆประมาณ 50จุดนั้นไม่ได้ซื้อหุ้นเพื่อนำไปขายต่อในอนาคต (โดยอาจจะให้เหตุผลได้ว่าไม่แน่ใจในเสถียรภาพของรัฐบาล...บลา...บลา...บลา..)เป็นเพียงแค่ซื้อหุ้นคืนหลังจากที่ขายชอร์ทลงมานั่นเอง ที่กล่าวตามนี้ไม่ได้สรุปว่าเป็นเช่นนี้100%  เพราะผมไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนหากแต่เพียงจะบอกได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันพอทำให้คิดได้เช่นนี้ และหากเป็นเช่นนี้จริงบรรดาชาวไล่ Follow buyก็จะแปรสภาพเป็นชาวดอยอีกครั้งนึง (T-T) อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนแต่ตอนนี้สัญญาณต่างๆพอจะบอกได้ว่าเป็นแบบนี้ ดังนั้นช่วงนี้นักลงทุนทั้งทองคำและ SET ต้องจับตาค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดทีเดียว

จุดที่ต้องจับตามอง หากค่าเงินบาทในช่วงนี้ยังไม่แข็งค่าไปกว่าประมาณ 30.39 ก็พอประเมิณได้ว่าฝรั่งแค่ทำ Short covering และมองถึงผลที่จะมีต่อไปในอนาคตนั่นคือ SETจะมีโอกาสกลับไปที่แถวๆ 1100 จุดได้ยากแล้ว   ส่วนนักลงทุนทองคำคงพอจะได้เฮ เพราะค่าเงินบาทอ่อนจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัญญัติ 10 ประการ ของวิชาเศรษฐศาสตร์

แต่ละคนเลือกตัดสินใจกันอย่างไร  ? บทบัญญัติที่ 1 : แต่ละคนเผชิญภาวะ “ได้อย่าง-เสียอย่าง” (Tradeoffs) เสมอ There is no such thing as a free lunch การแลกกันระหว่าง “ประสิทธิภาพ” (Efficiency) และ “ความยุติธรรม” (Equity) การตระหนักรู้ในภาวะ “ได้อย่าง-เสียอย่าง” ก็มีความสำคัญเพราะคนสามารถมีการตัดสินใจที่ดีก็ต่อเมื่อทราบถึงทางเลือกต่าง ๆ ที่เขามีอยู่ บทบัญญัติที่ 2 : ต้นทุนของสิ่งหนึ่งคือสิ่งที่คุณยอมเสียไปเพื่อให้ได้ของสิ่งนั้นมา ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ สิ่งที่คุณยอมสละไปเพื่อให้ได้มาซึ่งของสิ่งนั้น การตัดสินใจทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเรียนต่อหรือไม่ ผู้ตัดสินใจควรคำนึงถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้น นักกีฬาที่อาจทำเงินได้เป็นล้าน ๆ หากออกจากโรงเรียนไปเป็นนักกีฬาอาชีพจะตระหนักดีว่าต้นทุนค่าเสียโอกาสในการเรียนต่อของเขาสูงมาก และไม่น่าแปลกใจที่เขาเหล่านั้นเลือกออกจากโรงเรียน เนื่องจาก ประโยชน์ที่ได้จากการเรียนน้อยกว่าต้นทุนที่เกิดขึ้น บทบัญญัติที่ 3 : คนที่มีเหตุมีผลคิดแบบ “เพิ่มทีละหน่วย” (Margin) การเปลี่ยนแปลงแบบเพิ่มทีละหน่วย หรือ “Margina

กระบวนการ(process) สำคัญกว่า ผลลัพธ์(output)

ฝากถึงน้องๆที่เรียนหรือทำงานสายการตลาด หรืองานใดที่มีเป้าหมาย(goal)เป็นสำคัญ รวมถึงท่านผู้บริหาร.... อย่าได้ไปสนใจผลลัพธ์[output] เป้าหมายหรือคะแนนที่ได้ มากจนเกินไป หลายครั้งที่ผลลัพธ์นั้นเป็นปัจจัยที่เราไม่อาจควบคุมได้ หรือต้องใช้โชคช่วย(ดวง) แต่ถ้าเรามีการทำงานหรือมีกระบวนการทำงาน(PROCESS)ที่ดี ...แม้ว่าผลลัพธ์วันนี้ยังไม่ดี จะขอให้เชื่อมั่น และมั่นใจ ในประสิทธิภาพของกระบวนการทำงานที่ดี และมีคุณภาพ ว่าสักวันหนึ่ง ผลลัพธ์ที่ดีจะต้องตามมา อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว แต่หากบางท่านมีกระบวนการที่ไม่ดี แต่ดันโชคช่วยมีผลงานที่ดี ก็อย่าได้เบาใจ จะขอให้ จงระมัดระวัง ว่าผลลัพธ์หรือลูกค้าที่ดีนั้น จะอยู่กับท่านได้ไม่นาน หรืออาจจะไม่มีอีกต่อไปก็เป็นได้ เพราะว่าดวงที่ดี จะไม่มาช่วยท่านอยู่บ่อยๆหรอก สรุปคือ ... "กระบวนการดี ผลลัพธ์ดีแน่ กระบวนการไม่ดี ผลลัพธ์ไม่แน่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ อย่าบ้าผลลัพธ์มากจนเกินไป สิ่งสำคัญคือการพัฒนาการทำงาน ไม่ใช่ทำทุกทางเพื่อความสำเร็จ สำเร็จแล้วมิใช่เอาแต่ทำบุญหวังโชค หากต้องพัฒนาตนให้ก้าวต่อไปด้วย จึงจะมั่นคง" ปล.ต่อยอดความคิดจ

My Hero

ผมเคยได้ดูภาพยนต์ที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งชื่อว่า Batman-The Dark Knight และได้สรุปความลักษณะของฮีโร่คนนี้ได้ว่าเป็นบุคคลประเภท ปิดทองหลังพระ (ตามพระราชดำรัสของในหลวงที่เคารพยิ่งของเรา ที่หวังให้คนไทยเป็นคนดีให้ได้เช่นนี้บ้าง)กล่าวคือ เป็นผู้ซึ่งมีความต้องการช่วยเหลือผู้คนและขจัดความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในสังคม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆรวมทั้งชื่อเสียงและความมีหน้ามีตาในสังคม อีกทั้งยังได้ลงทุนลงแรงมากมายเพื่อให้สำเร็จตามประสงค์ของตนที่อยากได้สังคมที่ดีขึ้นกว่าที่เป็น ในชีวิตจริงนั้นคงเป็นไปได้ยากที่ในสังคมหนึ่งๆ หรือแม้แต่โลกทั้งใบกลมๆนี้จะมีคนเฉกเช่น Batman เพราะการทำดีในสังคมที่มีแต่อวิชชาหรือความโลภเป็นที่ตั้งนั้น กลับเป็นเรื่องยากที่ผู้ต้องการทำความดีที่อาจต้องมีการเสียสละเกิดขึ้น ซึ่งการเสียสละนี้จะเป็นต้นทุนหรือสิ่งที่เป็นผลเสียต่อคนที่ตั้งใจทำความดีนั้นให้ล้มเลิกความคิดไป หากแต่สิ่งที่เราได้ยินได้ฟังจากสื่อต่างๆนั้นการทำความดีต่างๆที่พบเจอ 90%หรือมากกว่านั้นเสียอีก คนที่ทำดีผู้นั้นเขาทราบดีว่าเขาจะได้ออกสื่อหรือแม้แต่เป็นผู้เชิญชวนสื่อให้มาทำข่าวในเรื่องที่เขาทำความดีด้วยตัวเอง ซึ่งพบ