ตอน SETขึ้น1050 ก็ประโคมข่าวว่าจะไป1700แล้วก็ลงมาที่ 900ต้นๆแล้วก็บอกว่าจะลงมาที่ 900 สุดท้ายก็ขึ้นมาเกือบ 1000แล้ว หลายท่านคงเลิกเชื่อถือ หรือเหนื่อยหน่ายกับแหล่งข่าว หรือบทวิจัยที่ออกมาบอกเช่นนี้
ในปัจจุบันกระแสข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อการลงทุนหลั่งไหลเข้ามาเป็นปริมาณมหาศาลและอย่างรวดเร็ว การวิเคราะห์เพื่อนำมาตัดสินใจลงทุนจึงเต็มไปด้วยความยุ่งยากและวุ่นวายเกินไปหากท่านให้น้ำหนักกับทุกข่าวทุกเรื่อง สุดท้ายท่านจะเป็นคนที่อ่อนไหวเกินไป แปรปรวนบ่อยเกินไป ตามกระแสข่าวที่หลั่งไหลเข้ามา
ข้างต้นชี้ให้เห็นในชีวิตการลงทุนจริงว่า แม้จะมีคนสำคัญออกมายืนยันว่าพื้นฐานเศรษฐกิจดีจริง แต่ก็ยังมีรายใหญ่ขายทุบออกมาร่วงเป็น 100 จุดได้หรือแม้แต่บอกว่าจะลงไปอีกก็จะถูกแรงซื้อขนาดยักษ์งัดขึ้นมานับ100จุดได้ มาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคงจะยิ่งรู้สึกสับสนยิ่งขึ้นไปอีกว่าแล้วจะให้เชื่ออะไร คำตอบที่ดีที่สุดก็คือ "ไม่ต้องเชื่อ" ให้ดูที่”ผลลัพธ์”เท่านั้นก็เพียงพอ เพราะแม้ว่ามีคนบอกว่าดีจริงแต่เค้าขายคุณก็ไม่รู้จริงๆอยู่ดีว่าเค้าขายเพราะอะไร ถ้าเค้าจะใจดีจริงๆก็คือขายไปแล้วแล้วค่อยมาบอกคุณนั่นละ ดังนั้น ผลลัพธ์ที่ผมว่านี้คือ ราคาจะสะท้อนทุกเหตุผล(ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง) หรือ Price's discount everything
บอกมาถึงตรงนี้ ก็จะชี้ให้คุณอ่านข่าวน้อยลงได้ เช่นถ้าอยากรู้เรื่อง Fund Flow ก็ดูที่ค่าเงินแข็งหรืออ่อนพอ ถ้าค่าเงินแข็งก็แสดงว่ามีเงินทุนไหลเข้าและมีความเป็นไปได้สูงที่ฝรั่งจะเข้ามาซื้อหุ้น / หรือข่าวควบรวม บ.A และ บ.B จะประกาศอย่างเป็นทางการหรือมีMOU(Master of understanding)กันเมื่อไร คำตอบที่ง่ายและเร็วที่สุดก็คือ ราคาหุ้นบ.Aและบ.B ได้วิ่งขึ้นไปแล้ว เราก็เลยพอทำนายได้ว่าน่าจะควบรวมกันจริงแต่จะจริงหรือไม่ตอนไหนก็ช่างเถอะ เพราะวันที่ประกาศควบรวมวันนั้นหุ้นบ.Aและบ.Bอาจจะถูกขายวันที่ประกาศเลยก็เป็นได้
สรุปสุดท้ายก็ไม่ได้บอกว่าการติดตามข่าวสารการลงทุนเป็นเรื่องไม่ดี ที่จริงเป็นเรื่องที่ดีและสำคัญที่สุดในการลงทุน แต่เราไม่รู้ว่าข่าวที่เรารู้ณ.วัน ว. เวลา น.นั้นถูกต้อง รวดเร็วทันเวลาจริงหรือไม่ และเราวิเคราะห์ได้ถูกต้องแน่นอนเพียงใด ดังนั้นท่านจะเหนื่อยน้อยลงและวิเคราะห์ได้แม่นยำขึ้นมาก หากท่านเชื่อในหลักการของ Price's discount everything ครับ
ความคิดเห็น