ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ภาวะหุ้นและทอง ค่ำ 4/1/2011

SET : มีปัจจัยบวกหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจ US ที่ออกมาดูดีทำให้  ทั้ง $ index ปรับตัว Rally ขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง การปรับตัวขึ้นของ$ indexตามปกติแล้วจะทำให้ Commoddities เช่น น้ำมัน ปรับตัวลง แต่ราคาน้ำมันดิบกลับปรับตัวขึ้นด้วยความมั่นใจในตัวเลขทางเศรษฐกิจดังที่แสดงไว้ ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับข่าวดีนี้ด้วยความเชื่อมั่นเช่นกัน   

ส่วนปัจจัยลบที่กดดันตลาด ก็คือ "ดัชนีSETสูง" ซึ่งจะจูงใจให้ผู้ที่ถือหน่วยลงทุนของกองทุน Ltf&RMF ที่ถือจนครบสิทธิกำหนดอายุ ไถ่ถอนหน่วยลงทุนออกมา ก็จะทำให้กองทุน LTF&RMF ต้องขายหุ้นในมือออกมาเพื่อนำเงินสดมาชำระคืนนั่นเอง  พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือคนที่ซื้อหุ้นใน SET และถือเฉพาะหุ้นตัวใหญ่ๆย้อนหลัง 5 ปี จะมีราคาต้นทุนเฉลี่ยที่กำไรแน่นอน เมื่อเค้ามีสิทธิขายได้ แน่นอนดัชนีที่สูงระดับนี้มันจูงใจให้เค้า take profit แน่นอนครับ

สรุปสิ้นวันนี้ออกมาตัวเลขก็เห็นได้ชัดเจนว่า กองทุนขายเกือบพันล้าน แถมยัง short future สุทธิอีกกว่า 2000 สัญญา เรียกได้ว่าตั้งใจขายจริงๆ ส่วนรายย่อยแน่นอนขึ้นแล้วต้องขาย ถ้าฝรั่งไม่รับซื้อไว้วันนี้เราอาจได้เห็น SET ติดลบทั้งๆที่ปัจจัยต่างๆสนับสนุนในทิศทางบวก อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้เราอาจได้เห็นการพักฐานบ้างแต่ไม่น่าต่ำ  1025 เพราะฝรั่งยังรับซื้ออยู่ อีกทั้งราคาน้ำมันดิบสูงระดับนี้ ราคาPTT, PTTCH ไม่แพงเกินไป (ส่วน PTTEP ติดเรื่องคดีความในต่างประเทศ) / หุ้นย่อแล้วน่าซื้อ IVL KSL / Follow buy : KTB(18 baht) / เก็งกำไร BIGC TMB STA / เงียบๆน่าสน THCOM ครับ

ทองคำ : หลุด 1400 แล้วอย่างเหตุผลที่กล่าวไว้ข้างต้นและที่ได้ Mailไปในช่วงบ่าย วันนี้ไม่มีปัจจัยบวกให้เห็นยกเว้นแต่การเข้าซื้อเก็งกำไรของรายใหญ่เท่านั้น ซึ่งณ.จุดนี้เราคงจะฝากความหวังไว้ด้วยไม่ได้  ...ตอนนี้ราคาหลุด 1400 แล้วพวกเราออก Short Close กันไปพอสมควร ถึงมองว่าจะลงแต่ Concept เราจะไม่ Short Open ง่ายๆดังนั้น พรุ่งนี้เช้ามารอดูว่าจะกลับที่ 1400 ได้มั้ย ถ้ากลับมายืนได้ก็เข้าซื้อสะสม ถ้ากลับมาไม่ได้เดี๋ยวค่อยประเมิณกันใหม่

ปล.ณ.ระดับราคาทองหรือหุ้นใดๆกรุณาโทรมาสอบถามได้ครับ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัญญัติ 10 ประการ ของวิชาเศรษฐศาสตร์

แต่ละคนเลือกตัดสินใจกันอย่างไร  ? บทบัญญัติที่ 1 : แต่ละคนเผชิญภาวะ “ได้อย่าง-เสียอย่าง” (Tradeoffs) เสมอ There is no such thing as a free lunch การแลกกันระหว่าง “ประสิทธิภาพ” (Efficiency) และ “ความยุติธรรม” (Equity) การตระหนักรู้ในภาวะ “ได้อย่าง-เสียอย่าง” ก็มีความสำคัญเพราะคนสามารถมีการตัดสินใจที่ดีก็ต่อเมื่อทราบถึงทางเลือกต่าง ๆ ที่เขามีอยู่ บทบัญญัติที่ 2 : ต้นทุนของสิ่งหนึ่งคือสิ่งที่คุณยอมเสียไปเพื่อให้ได้ของสิ่งนั้นมา ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ สิ่งที่คุณยอมสละไปเพื่อให้ได้มาซึ่งของสิ่งนั้น การตัดสินใจทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเรียนต่อหรือไม่ ผู้ตัดสินใจควรคำนึงถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้น นักกีฬาที่อาจทำเงินได้เป็นล้าน ๆ หากออกจากโรงเรียนไปเป็นนักกีฬาอาชีพจะตระหนักดีว่าต้นทุนค่าเสียโอกาสในการเรียนต่อของเขาสูงมาก และไม่น่าแปลกใจที่เขาเหล่านั้นเลือกออกจากโรงเรียน เนื่องจาก ประโยชน์ที่ได้จากการเรียนน้อยกว่าต้นทุนที่เกิดขึ้น บทบัญญัติที่ 3 : คนที่มีเหตุมีผลคิดแบบ “เพิ่มทีละหน่วย” (Margin) การเปลี่ยนแปลงแบบเพิ่มทีละหน่วย หรือ “Mar...

กระบวนการ(process) สำคัญกว่า ผลลัพธ์(output)

ฝากถึงน้องๆที่เรียนหรือทำงานสายการตลาด หรืองานใดที่มีเป้าหมาย(goal)เป็นสำคัญ รวมถึงท่านผู้บริหาร.... อย่าได้ไปสนใจผลลัพธ์[output] เป้าหมายหรือคะแนนที่ได้ มากจนเกินไป หลายครั้งที่ผลลัพธ์นั้นเป็นปัจจัยที่เราไม่อาจควบคุมได้ หรือต้องใช้โชคช่วย(ดวง) แต่ถ้าเรามีการทำงานหรือมีกระบวนการทำงาน(PROCESS)ที่ดี ...แม้ว่าผลลัพธ์วันนี้ยังไม่ดี จะขอให้เชื่อมั่น และมั่นใจ ในประสิทธิภาพของกระบวนการทำงานที่ดี และมีคุณภาพ ว่าสักวันหนึ่ง ผลลัพธ์ที่ดีจะต้องตามมา อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว แต่หากบางท่านมีกระบวนการที่ไม่ดี แต่ดันโชคช่วยมีผลงานที่ดี ก็อย่าได้เบาใจ จะขอให้ จงระมัดระวัง ว่าผลลัพธ์หรือลูกค้าที่ดีนั้น จะอยู่กับท่านได้ไม่นาน หรืออาจจะไม่มีอีกต่อไปก็เป็นได้ เพราะว่าดวงที่ดี จะไม่มาช่วยท่านอยู่บ่อยๆหรอก สรุปคือ ... "กระบวนการดี ผลลัพธ์ดีแน่ กระบวนการไม่ดี ผลลัพธ์ไม่แน่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ อย่าบ้าผลลัพธ์มากจนเกินไป สิ่งสำคัญคือการพัฒนาการทำงาน ไม่ใช่ทำทุกทางเพื่อความสำเร็จ สำเร็จแล้วมิใช่เอาแต่ทำบุญหวังโชค หากต้องพัฒนาตนให้ก้าวต่อไปด้วย จึงจะมั่นคง" ปล.ต่อยอดความคิดจ...

Ben Bernanke : พี่เหม่ง

Ben Bernanke เป็นบุคคลที่ผมชอบเขียนล้อเลียนขำขำ โดยเรียกว่า"พี่เหม่ง" ... เบนันเก้เป็นประธานFedที่รับไม้ต่อจากนายอลัน กรีนสแปน ซึ่งดำรงตำแหน่งเกือบ 20ปี บุคคลที่นักธุรกิจชาวUsกล่าวยกย่องถึงขนาดที่ว่าเป็นเทวดามาโปรด เพราะสามารถทำให้เศรษฐกิจus เติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด อย่างไรก็ดีไม่มีอะไรจะฝืนธรรมชาติได้ การโตอย่างต่อเนื่องมันต้องมีจุดย่อตัวบ้าง แต่ในขณะนั้นเศรษฐกิจus เติบโต เติบโต เติบโต จากมาตรการของนายกรีนสแปน ที่สำคัญก็คือการลดอัตราดอกเบี้ย เมื่อโตอย่างไม่หยุดพัก ก็เหมือนฟองสบู่ลอยล่องรอวันแตก จนกระทั่งพี่เหม่งของผมเข้ามารับช่วงต่อ ฟองสบู่ก็แตกโพล๊ะ พอดิบพอดี -_-" พี่เหม่งของผมก็เลยรับความซวยนี้ไปเต็มๆ ...อย่างไรก็ดีไม้เด็ดของเฮียอย่างQe ถือเป็นการคิดนอกกรอบเพื่อการแก้วิกฤติแบบนึกไม่ถึงเลยทีเดียว จึงทำให้ในปัจจุบันUs สามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตนั้นมาได้ด้วยเงินร้อนๆจากQe 2557ม.ค. ,เฮียกำลังจะหมดวาระ โดยมีแคนดิเดตเช่น ลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส  และ เจเน็ต เยลเลน ที่จะเข้ามารับช่วงต่อ ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อชื่นชมเฮียแกจริงๆครับ คงคิดถึงไม่น้อยเลยอะ ..... T-...