ช่วงตื่นทองประมาณกลางปีก่อน(2011) ราคาทองคำได้พุ่งทะยานจากราวๆ1400 ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1920 จากวิกฤตหนี้สินกรีซ นักลงทุนทั่วโลกมีมุมมองว่าความเสี่ยงจากภาวะหนี้สินสูงเกินตัวของกรีซจะส่งผลลบต่อภาคธุรกิจ เงินสกุลยูโร สินค้าโภคภัณฑ์ รวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาล นักลงทุนเองจึงต้องทำการโยกย้ายเงิน(asset allocation)ไปยังที่ๆสามารถพึ่งพิงได้หรือ safe haven ซึ่งณ.ขณะนั้นคือ ทองคำ (ถึงแม้ว่าทองคำจะถูกนับรวมเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ก็ตาม) ช่วงดังกล่าวในขณะที่ความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซยิ่งสูงขึ้น ก็จะยิ่งส่งผลให้เกิดการขายหุ้น เงินสกุลยูโร สินค้าโภคภัณฑ์ รวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาล(ทำให้yeildสูงขึ้น) ทั้งหมดโดยถูกมองว่าเป็น"สินทรัพย์เสี่ยง"ออกมา และนำเงินที่ขายได้ไปซื้อทองคำด้วยมุมมองของ safe haven
หลังจากนั้นกรีซเองได้รับความช่วยเหลือจากนานาประเทศจนสามารถรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ได้ (อันที่จริงเป็นการผิดนัดชำระหนี้บางส่วน) ส่งผลกระทบให้เกิดการ revese asset allocation นักลงทุนขายทองคำเพื่อกลับเข้าไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง ดัชนีตลาดหุ้นหลายประเทศทั่วโลกปรับตัวขึ้นพร้อมกันถ้วนหน้า สวนทางกับราคาทองคำที่ถูกมองว่าเป็น safe havenแต่ถูกขายออกมาเพราะสินทรัพย์เสี่ยงเหล่านั้น มีความเสี่ยงลดลงและมีโอกาสมีผลตอบแทนที่ดีกว่าทองคำที่ราคาในช่วงนั้นอาจถือได้ว่าเกินปัจจัยพื้นฐานไปมากแล้ว ราคาทองคำจึงปรับตัวลงจากจุดสูงสุด 1920 ลงมาที่ 1530 อย่างรวดเร็ว ....มีต่อภาค (2) กรุณารอสักครู่
ความคิดเห็น