SET = ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market)มีMarket cap.ไม่ใหญ่มาก ผลกระทบจากการเคลื่อนไหวเงินทุนขนาดใหญ่ (Fund Flow)หรือที่เราเรียกกว่า"ฝรั่งซื้อ"หรือ"ฝรั่งขาย" จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะกำหนดทิศทางตลาดโดยรวมได้
ท่ามกลางปัจจัยทางเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นลบมากมายทั้งชุมนุมประท้วง,น้ำท่วม หรือแม้กระทั่งผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นตัวเลขเชิงประจักษ์แล้วว่า GDPไทยหดตัวลดลงถึง 9% ก็ไม่อาจส่งผลให้ทิศทางตลาดแปรเปลี่ยนในทางลบหาก"ฝรั่งซื้อ" (โดยสมมติว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างประเทศนั้นคงที่) อาจเขียนเป็นสมการในชีวิตจริงได้ว่าผลกระทบต่อSET = Fund Flow > Fundamental
นักวิเคราะห์หลากหลายสำนักถ้าต่างแนะนำให้ท่านขายทยอยลดพอร์ท ด้วยความเชื่อในFundamental ถ้าผมจำไม่ผิดบางสำนักให้ท่านลดพอร์ทตั้งแต่ยังไม่ 1000จุดด้วยซ้ำ,ถ้าท่านทำใจเปิดกว้างเข้าไปอ่านในเนื้อหาท่านก็น่าจะเข้าใจได้ว่ามันมีปัจจัยที่น่าขายมากกว่าซื้อ ผ่านมาถึงจุดนี้ SETพุ่งทะยานขึ้นมาเกือบๆ1150ไปแล้ว ทั้งๆที่บทสุดท้ายเรื่องกรีซยังไม่มีข้อสรุป เราอาจยอมรับได้ส่วนหนึ่งว่าSETขึ้นมาตามตลาดต่างประเทศ แต่หลายท่านอาจไม่ยอมรับว่าตลาดไม่Discountปัจจัยลบใดๆเลย แม้แต่ข่าว Morganลดน้ำหนักการลงทุนในไทยด้วยเหตุผลหลายประการ ก็เพียงทำให้SETเองแค่ปรับฐานลงไปแค่ประมาณ 30นาทีเท่านั้นหลังจากนั้นก็ขึ้นต่อด้วยกระแสFund Flowหลักยังเป็น"ฝั่งซื้อ"
SETบ้านเรามีบทเรียนหลายๆครั้งโดยเฉพาะขาShort Future นั้นทราบดีว่าหลายๆข้อเท็จจริงสำคัญๆที่น่าจะทำให้ตลาดหุ้นลงได้ แต่ก็ยังดันขึ้น แถมในบางช่วงขึ้นแรงดีที่สุดในโลกสวนปัจจัยลบด้วยซ้ำไป เอาเป็นว่าวันนี้มาสรุปภาวะตลาดให้ฟังง่ายๆตามสมการข้างต้น แต่อาจปรับความรู้สึกให้เข้าใจมันได้ยากสักหน่อย ทำยังไงได้ ทั้งน้ำท่วม,ทั้งOver Bought ทั้งDivergenceก็แล้ว ก็ยังขึ้นต่อไปได้เรื่อยๆแบบนี้ เสียดายรอบใหญ่กันไหมครับ แต่ก็ยังไม่ชอกช้ำเท่ากับShort Futureเนอะ -_-" ตามน้ำกันไปเถอะครับ พวกเรานักลงทุนรายย่อยทั้งหลายเป็นเห็บฉลามไปกับฉลามมันยังกินอิ่มสำราญใจ มากกว่าเป็นปลาว่ายทวนกระแสน้ำเยอะ ทั้งทำไม่ได้แล้วก็เจ็บตัวด้วยนะครับ ^^
ความคิดเห็น